🌄KCS คาด SET แกว่งตัว Side way แนวรับ 1383 / 1352 แนวต้าน 1438 เรายังคงแนะนำสะสมหุ้น Selective Buy กลุ่มการท่องเที่ยว AOT, MINT, AAV, ERW หุ้นเชื่อมโยงการท่องเที่ยวจีน SPA, TKN กลุ่มการเงิน TIDLOR, MTC, SAWAD / กลุ่มอสังหา AP, SC, SIRI ส่วนกลุ่มที่แนะนำหลีกเลี่ยง กลุ่มธนาคาร จากแนวโน้ม GDP ชะลอตัว และทิดทางดอกเบี้ย อาจมีโอกาสถูกปรับลด ปัจจัยภายนอก กำไรบริษัท ดัชนี S&P500 ขึ้นทำจุดสูงสุดต่อเนื่อง แรงขับเคลื่อนมาจากหุ้นเทคฯ ที่ตลาดเก็งภาพ Outlook ความต้องการ AI ที่หนุนผลประกอบการเด่น ขณะที่ราคาน้ำมันอิง BRENT ยังยืนระดับ 82 เหรียญฯ บนภาพความกังวลต่อซัพพลายตึงตัว และระดับที่แกว่งตัวบริเวณดังกล่าวและไม่ทะลุเกิน 90 เหรียญฯยังถือเป็นบวกต่อ SET และไม่สร้างความเสี่ยงเงินเฟ้อซึ่งล่าสุดมีสัญญาณดี จากสหรัฐฯปรับวิธีคำนวณใหม่ ทำให้เงินเฟ้อ CPI ธ.ค. 23 มีช่วงบวกต่ำลง ช่วยชะลอการปรับขึ้น US Bond Yield และอาจจะเป็นบวกต่อรายงาน ม.ค.23 พรุ่งนี้(13 ก.พ.) เป็นจิตวิทยาหนุนสินทรัพย์เสี่ยง ส่วนภายใน แรงขับเคลื่อนภาคบริการยังชัด นักท่องเที่ยวช่วงเทศกาลตรุษจีนคึกคัก 10 ก.พ. สูง 1.47 แสนคนต่อวัน จากฐาน Avg YTD ราว 1.0 แสนคนต่อวัน วันนี้มองลุ้น SET แกว่งขึ้น หุ้นนำ คือ หุ้นอิงภาคบริการ น้ำมัน ชิ้นส่วนฯ แนะนำ AOT, HANA,MINT
🌏ปัจจัยต่างประเทศ
(*/+) US Stocks : ตลาดหุ้นสหรัฐ Dow jones -0.14%, S&P500 +0.57% ปิดเหนือ 5000 จุด ทำ All time high แรงหนุนหลักมาจากงบ 4Q23 ที่ และหุ้นกลุ่ม Tech และ high growth อาทิ กลุ่ม Semi Conductor คือ NVDIA +3.6% ให้ข่าวกำลังสร้างธุรกิจใหม่ที่เน้นการออกแบบชิปตามความต้องการของบริษัทด้าน Cloud Computing และ AI ขั้นสูง AMD +1.85% (มองจิตวิทยาบวกต่อหุ้นกลุ่ม อิเล็กทรอนิกส์ไทย เน้น HANA, DELTA ) Amazon +2.7% , ดัชนี Nasdaq +1.25% จาก กลุ่มที่นำตลาด คือ IT Consumer Discretionary, ICT ฯลฯ กลุ่มที่ Underperform คือ Energy, Consumer staples ฯลฯ
• (*) Geopolitical risk : 1.) ฟิลิปปินส์ & สหรัฐจัดการลาดตระเวนร่วมกันเป็นครั้งที่ 3 ในทะเลจีนใต้ 2.) กระทรวงกลาโหมของไต้หวันเปิดเผยเมื่อวันเสาร์ ได้ตรวจพบบอลลูนจีน 8 ลูกลอยข้ามช่องแคบไต้หวัน KCS ประเมินกระแส Geopolitical ในฝั่งภูมิภาค ที่ยังมีเข้ามาเป็นระยะๆ ผสานกับปีนี้ปลายปี 5 พ.ย. จะมีการเลือกตั้งสหรัฐ ล่าสุดผลสำรวจคุณ Trump (พรรค Republican) มีนโยบายสนับสนุนการกีดกันการค้า คะแนนนำ คูณไบเดน(พรรค Democrat) แนะนำให้ติดตามหากชนะ มองจะกระตุ้นการย้ายฐานการผลิตเพิ่มเติมมายังประเทศที่ไม่ได้รับผลกระทบ อาทิ ไทย มองบวกต่อหุ้นกลุ่มนิคม เน้น AMATA, WHA
(*) US CPI : กระทรวงแรงงานสหรัฐประกาศปรับตัวเลขเงินเฟ้อ เดือน ธ.ค. จากเดิมที่มีการรายงานก่อนหน้านี้ 1.) (Headline CPI) เดือน ธ.ค. +0.2%m-m ต่ำกว่าที่มีการรายงานก่อนหน้า +0.3%m-m ส่วน Core CPI +0.3%เดือนธ.ค. เท่ากับที่รายงานก่อนหน้านี้ ช่วยชะลอการปรับขึ้น US Bond Yield ระยะสั้นและอาจจะเป็นบวกต่อรายงานเงินเฟ้อสหรัฐ ม.ค.23 พรุ่งนี้(13 ก.พ.) ผสานราคาน้ำมันอิง BRENT ยังยืนระดับ 82 เหรียญฯ และไม่ทะลุเกิน 90 เหรียญฯยังถือเป็นบวกไม่สร้างความเสี่ยงเงินเฟ้อ
• (*) To monitors : ติดตามการให้ความเห็นคณะกรรมการ Fed ระหว่างสัปดาห์ ฝั่งสหรัฐ 13 ก.พ.ตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ (CPI) ม.ค. ตลาดคาด 2.9%y-y ชะลอจาก 3.4% ในเดือนก่อน และ Core CPI คาด +0.3%m-m ทรงตัว 15 ก.พ. ยอดค้าปลีก ม.ค. 24 ตลาดคาด -0.2%m-m ฝั่งญี่ปุ่นติดตาม 15 ก.พ. ติดตามรายงาน GDP 4Q23 คาดทรงตัว q-q +0.3%q-q
• (*) US Bond & Dollar : ระยะสั้นยังเป็นขาขึ้นอายุ 10ปีปรับขึ้น 2 วันติด วันศุกร์ปรับขึ้น 2 bps อยู่ที่ 4.17% เช่นเดียวกับ 2 ปี ปรับขึ้น 3 วันติด ล่าสุด +2 bps อยู่ที่ 4.48% เป็นจิตวิทยาบวกต่อหุ้นประกันชีวิตและกลุ่มธนาคารวันนี้ Dollar Index แกว่งตัว 103.9 +/- จุด
• (*) MSCI Rebalance: คืนวันที่ 12 ก.พ. (เช้ามืดวันพรุ่งนี้) การประกาศรายชื่อหุ้นในดัชนี MSCI รอบใหม่ จากข้อมูลของเราล่าสุด คาดมี 2 บริษัทเสี่ยงหลุด คือ BJC (มีความเสี่ยงสูง) ที่จะถูกถอดออกจากดัชนี และ OSP(มีความเสี่ยงปานกลาง) จะมีผลวันที่ 1 มี.ค. ( ณ ราคาปิดวันที่ 29 ก.พ.)
• (*/+) Oil : น้ำมันดิบปรับเพิ่มติดต่อกัน 4 วัน Brent +0.7%d-d ปิดที่ US$ 82.2/barrel น้ำมันดิบ West Texas +0.81%d-d ปิดที่ US$ 76.84/barrel แรงหนุนมาจากความกังวล Supply ในตัวออกกลางเป็นปัจจัยหนุนหลักหลังจากปลายสัปดาห์อิสราเอลปฏิเสธข้อเสนอหยุดยิงของกลุ่มฮามาสกลางอาทิตย์ก่อน และอิสราเอลยังคงทำการโจมตีทางอากาศในฉนวนกาซาในวันศุกร์ ผ่านการทิ้งระเบิดใส่เมืองราฟาห์ โดยรวมมองเป็นจิตวิทยาหุ้นพลังงานต้นน้ำ อาทิ PTT, PTTEP