Listen

Description

🌄KCS คาด SET พักฐาน ทิศทางตลาดต่างประเทศกดดัน กอปรกับ การเมืองไทยยังมีระเบิดลูกใหม่ที่รออยู่หลังคำชี้ขาด ศาลรธน. วานนี้ แต่อาจทำให้ระยะสั้น ประเด็นร้อนแรงทางการเมือง เรื่องแก้ ม.112 จะลดลง ประเมินแนวรับ 1342 และ worst case 1266 จุด เรายังคงแนะนำสะสมเมื่ออ่อนตัว / แต่หาก SET ประคองตัว ยืนเหนือ 1352 ได้ จะรอการประกาศผลประกอบการณ์ 4Q23 เป็นตัวชีวัดการลงทุน หากทิศทางเป็นบวกอาจเห็นแรงเก็งกำไร แต่หากแย่กว่าคาด อาจทำให้ตลาดพักฐานใหญ่ ปัจจัยภายนอก ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ผันผวน จิตวิทยาลบ Fed คงดอกเบี้ย และคาดยังไม่ปรับลดในรอบ มี.ค. จากมองเศรษฐกิจประคอง Soft Landing ได้ ระยะสั้น Fund Flow จึงอาจจะไม่กลับสู่ Asia และไทย อย่างไรก็ดี Fed ยังคงมุมมองปี 2024 ที่คาดจะปรับดอกเบี้ยลง สะท้อนมุมมองคาดเงินเฟ้อ&เศรษฐกิจช่วงถัดไปอ่อนลง ขณะที่ฝั่ง Asia จีนและไทยค่อยๆฟื้นตัวเป็นลำดับจะหนุนระยะกลาง ส่วนภายใน ผลวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญกรณีพรรคก้าวไกล หาเสียงแก้ไขมาตรา 112 เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง ระยะสั้นทำให้ตลาดเห็นข้อสรุป ก่อนที่จะติดตามพัฒนาการลำดับถัดไปต้องใช้เวลา ตลาดจึงน่าจะกลับมามองภาพพื้นฐาน BOT มีแนวโน้มปรับลด GDP แต่สะท้อนใน SET แล้ว ขณะที่จะเปลี่ยนมาเป็นความคาดหวังบวกการปรับลดดอกเบี้ย มอง SET วันนี้ให้ย่อซื้อ หุ้นนำ คือ กลุ่มได้ดอกเบี้ยขาลงหนุน Growth, เช่าซื้อ, หนี้สูง โรงไฟฟ้า และ ท่องเที่ยว แนะ AAV, GPSC, MTC
🔸🔸🔸🔸🔸

🌏What happened around the world ?

• (*) US Stocks : ตลาดหุ้นสหรัฐปรับลง Dow jones -0.82%, S&P500 -1.6% Nasdaq -2.23% โดยดัชนี S&P500 ปรับลงทุก Sector แต่กลุ่มที่ Underperfprm คือ ICT, IT, Energy, Consumer Dicretionary ฯลฯ

•(*) Fed Meeting : ผลประชุม Fed ออกมาตามคาด (inline) คือคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 5.25-5.5% (เป็นการคงครั้งที่ 4) แต่โทนการสื่อสานถึงทิศทางดอกเบี้ยจาก Fed Powell คือ1.) ภาพรวมกิจกรรมทางเศรษฐกิจยังขยายตัวได้อย่างแข็งแกร่ง บ่งชี้มุมมองเศรษฐกิจ Soft landing 2.) คาดจะมีการเริ่มลดดอกเบี้ยฯในปี 2024 สอดคล้องกับมุมมองดอกเบี้ยขาลงสหรัฐ 3.)ปิดโอกาสการลดดอกเบี้ยครั้งแรกใน การประชุมรอบ เดือน มี.ค.24 โดยแนะนำให้ติดตามหากเงินเฟ้อลดลงบริเวณกรอบที่ Fed วางไว้ที่ 2% ถึงเป็นจังหวะเหมาะสมในการลดดอกเบี้ย (เงินเฟ้อ PCE สหรัฐล่าสุด เดือน ธ.ค. อยู่ที่ 2.6%y-y, Core PCE อยู่ที่ 2.9%)

KCS ประเมินทิศทางเงินเฟ้อมีแนวโน้มปรับลงต่อ โดยความเสี่ยงหลักเงินเฟ้อ คือราคาน้ำมันดิบ หากทะลุและแกว่ง 87-90 เหรียญ อาจจะทำให้มุมมองลดอัตราดอกเบี้ยไม่ได้ลดลงเร็วตามที่ตลาดคาด (ตลาดคาดการลดดอกเบี้ยสหรัฐปีนี้อิง CME Fed Watch tools คือเหลือลด 5 ครั้ง โอกาสการลดดอกเบี้ยครั้งแรก คือ รอบ พ.ค.24 และปรับลดติดต่อทุกรอบในการประชุม Fed รอบที่เหลือของปีรอบละ 25 bps โดยอัตราดอกเบี้ยสิ้นปี 24 จะอยู่ที่ ‪3.75-4.0‬% อย่างไรก็ดี อิงภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯ เชื่อว่าจะค่อยๆอ่อนตัวลง KCS ยังคงมอง Base Case ว่าวงจรดอกเบี้ยปี 2024 เป็นขาลง

•(*/+) US Econ : ยอดการจ้างงานภาคเอกชน(ADP Employment) +107K ต่ำกว่าคาดที่ 1.45 แสนราย prev. 1.58 แสนราย หลักมาจากการลดลงในกลุ่มการศึกษา และ Health Services

•(*/+) China Econ ตัวเลขเศรษฐกิจจีนยังมีสัญญาณฟื้นตัวเช้านี้ PMI ภาคผลิตจีน เดือน ม.ค. อยู่ที่ 49.2 จุด แม้จะต่ำตลาดคาดเล็กน้อย แต่เร่งขึ้นจาก 49.0 จุดในเดือน ธ.ค.23 เช่นเดียวกับ PMI ภาคบริการ เพิ่มขึ้นติดต่อกัน 2 อยู่ที่ 50.7 จุด และดีกว่าตลาดคาดเล็กน้อยที่ ( > 50 จุด สะท้อนภาคบริการจีนขยายตัว) ภาพ PMI จีนที่ฟื้นตัวผสานกับเมื่อคืนรายงานคาดการณ์ของ IMF ที่มีมุมมองต่อเศรษฐกิจจีนดีขึ้น ปรับเพิ่ม GDP Growth ปี 24 +0.4% อยู่ที่ +4.6%y-y ประเมินเป็นจิตวิทยาบวกต่อตลาดหุ้นจีน และหุ้นเชื่อมโยงจีน แนะนำเน้นลงทุน IVL, MINT, AOT, AAV

• (*) To monitors : ฝั่งสหรัฐ 1 ก.พ. PMI ภาคผลิต (ISM) ตลาดคาด 47.5 จุด vs prev. 47.4 , และคืนนี้ ติดตามประชุม Fed ทั้ง MUFG และตลาดคาดคงดอกเบี้ยที่ 5.02-5.5% , 2 ก.พ. ติดตามการจ้างงานนอกภาคเกษตร ม.ค. คาด 1.85 แสนตำแหน่ง vs prev. 216 แสนตำแหน่ง และอัตราการว่างงาน ม.ค. คาดคงที่ระดับ 3.7% ทรงตัวจาก prev. ฝั่งจีน 31 ม.ค. ติดตาม PMI ภาคผลิตและภาคบริการ ม.ค. รายงานโดยทางการ ไม่มีคาด vs prev. 49 และ 50.4 จุด, 1 ก.พ. ติดตาม Caixin PMI ภาคผลิตไม่มีคาด งวดก่อน 50.8 จุด

• (*) US Bond & Dollar : Bond yields สหรัฐ เกิด Sell on fact อายุ 10 ปี ปรับลง -13 bps อยู่ที่ 3.93% เช่นเดียวกับ 2 ปี ปรับลง -13 bps อยู่ที่ 4.22% ขณะที่ Dollar Index แกว่งตัว 103.3+/- จุด

• (*/-) Oil : ราคาน้ำมันดิบฟื้น Brent -2.18%d-d ปิดที่ US$ 80.7/barrel น้ำมันดิบ West Texas