🌄KCS คาด SET ฟื้นตัวต่อจากวานนี้ หลังภาพในประเทศคลายแรงกดดัน ทั้งการเมืองและภาพการลงทุน กอปรกับ เกิด Technical rebound เรายังคงประเมินแนวต้านเป้าหมายระยะสั้น 1398 จุด และนำ selective BUY กลุ่มการท่องเที่ยว เชียร์ AAV MINT ERW ปัจจัยภายนอก หุ้นเทคฯนำตลาดหุ้นสหรัฐฯ ต่อ หนุนจากผลประกอบการ Netflix และผู้ผลิตชิป ASML ในยุโรป ขณะที่แนวโน้มเศรษฐกิจยังไปในทางบวก จากสัญญาณ PMI โดยมีจุดเด่นที่ฝั่งภาคผลิต ฝั่งสหรัฐฯกลับมาขยายตัว ยุโรปสูงสุดตั้งแต่ ก.พ. 23 ส่วนจีนแม้การฟื้นตัวค่อยเป็นค่อยไป แต่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมีนัยขึ้นเรื่อยๆ ปรับลด Reserve required ratio(RRR) -50bps มาที่ 10% ต่ำสุดตั้งแต่กลางปี 2007 ตลาดคาดหนุนสภาพคล่องระบบธนาคารจีนราว 1 ล้านล้านหยวน หรือ 0.8%ของ GDPจีน โดยรวมเป็นภาพบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยง ส่วนภายในข้อมูล GDP ที่ สศค. ปี 2023-24 ประเมินใหม่ จุดลบ คือ การเปลี่ยนแปลงสินค้าคงคลังตามที่เราประเมิน ขณะที่มองบวกขึ้นต่อองค์ประกอบหลักส่วนใหญ่ มอง SET ฟื้นได้ต่อ หุ้นนำ คือ กลุ่มกำไร 4Q23F ดี กลุ่มอิงเทคโนโลยี ภาคผลิตและจีน วันนี้แนะนำ BBIK, SMD (ประกันสังคมออกประกาศ ผู้ประกันตน ป่วยโรคหยุดหายใจขณะหลับ สามารถเบิกค่ารักษาโรคได้), INSET
🔸🔸🔸🔸🔸
🌏What happened around the world ?
• (*/+) US Stocks : ตลาดหุ้นสหรัฐปรับเพิ่มขึ้นต่อ แม้ดัชนี Dow Jones –0.26% แต่ S&P500 +0.08%, Nasdaq +0.36% ยังทำ All high, จาก โดยดัชนี S&P500 กลุ่มที่นำตลาด คือ Energy, ICT, IT, Financials ฯลฯ (หลักๆ นำโดย Semiconductor นำโดย AMD +5.86%, NVDIA +2.5%)
•(*) US Earning 4Q23 : บริษัทใน S&P500 รายงานงบออกล่าสุดรวม 97 บริษัทจาก 500 บริษัท (เพิ่มขึ้น 25 บริษัท) โดยกำไรบริษัท -1.9%y-y และดีกว่าคาด 6.3% หลักๆ เมื่อวานบริษัทที่รายงานคือ กำไรแย่กว่าคาดคือ Tesla(ต่ำคาดราว 2.7%), AT&T(ต่ำคาด 3.6%) ส่วนที่ดีกว่าคาด คือ IBM (ดีกว่าคาด 2.6%), ASML(ดีกว่าคาด 2%) ฯลฯ
•(*/+) US PMI : PMI ภาคผลิต ม.ค.รายงานครั้งแรกออกมาที่ 50.9 จุด(เหนือ 50 จุดสะท้อนภาคการผลิตขยายตัว) คาด 48 จุด vs prev. 47.9 จุด สอดคล้องกับPMI ภาคบริการ ม.ค. ออกมาที่ 52.9 จุดคาด 51 จุด vs prev. 51.4 จุด
•(*/+) Eurozone PMI : PMI ภาคผลิต ม.ค.รายงานครั้งแรกออกมาที่ 46.6 จุด (ทำจุดสูงสุดตั้งแต่ ก.พ.2023) ดีกว่าคาด 44.8 จุด vs prev. 44.4 จุด แต่PMI ภาคบริการ ม.ค. ยังไม่ฟื้น ออกมาที่ 48.4 จุด vs prev. 48.8 จุด
•(*/+) Japan Export : ส่งออกญี่ปุ่น (สัดส่วนราว 22%ของ GDP ปี 2022) เดือน ธ.ค. +9.8%y-y (สูงสุดตั้งแต่ ม.ค.2023) มากกว่าตลาดคาดที่ 9.1% และหากพิจารณาการส่งออกรายประเทศ เดือนนี้ สหรัฐ, จีน, ยุโรปตะวันตก ขยายตัว ยกเว้นกลุ่มอาเซียน ส่วนสินค้าส่งออกหลักที่ขยายตัวหลักๆคือ กลุ่มยานยนต์ และเครื่องผลิตชิป KCS ประเมินเป็นจิตวิทยาบวกต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นและบวกต่อหุ้นไทยที่ทำธุรกิจไปญี่ปุ่น อาทิ GFPT อีกฝั่งตอกย้ำภาคการส่งออกเอเซียฟื้นตัวหนุนหุ้นส่งออก
(*/+) China Stocks : 1.)ธนาคารกลางจีน(PBOC)เดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจผ่านมติปรับลด Reserve required ratio(RRR) 50bps มาอยู่ที่ 10% ต่ำสุดตั้งแต่กลางปี 2007 อิง Bloomberg ประเมินทุก 50 bps ที่ลดลงจะหนุนสภาพคล่องระบบธนาคารพาณิชโดยรวมของจีนราว 1 ล้านล้านหยวน หรือ 0.8%ของ GDP จีน 2.)สำนักข่าว Reuters รายงานแหล่งข่าว ก.ล.ต. จีน(CSRC) ได้สั่งให้ผู้จัดการกองทุน Hedge Fund บางแห่งห้ามทำ Short Selling หรือขาย Short ในดัชนีตลาดหุ้นล่วงหน้า โดยรวมเป็นปัจจัยหนุนตลาดหุ้นฮ่องกงและจีนปรับขึ้นเมื่อวาน และเป็นจิตวิทยาบวกต่อหุ้นที่เชื่อมโยงจีน แนะนำหุ้น SCGP, IVL, PTTGC,
• (*) To monitors : ฝั่งสหรัฐหลักคือติดตาม 26 ม.ค.รายงานเงินเฟ้อ PCE ตลาดคาด 2.6% ส่วน Core PCE ตลาดและ Top Ranks คาด 0.2% ฝั่งยุโรปหลักๆ 25 ม.ค. คือติดตามการประชุม ECB คาดคงดอกเบี้ยนโยบาย 4.5%
• (*) US Bond & Dollar : Bond yields สหรัฐ อายุ 10 ปีปรับขึ้นต่อ 4 bps อยู่ที่ 4.18% สวนทางกับ Bond yields อายุ 2 ปีพลิกปรับขึ้น 3.% อยู่ที่ 4.34% ขณะที่ Dollar Index อ่อนค่าลงมาบริเวณ 103.0+/- จุด
• (*)Oil : น้ำมันดิบ Brent +0.97%d-d ปิดที่ US$ 80.32/barrel น้ำมันดิบ West Texas +0.97%d-d ปิดที่ US$ 75.09/barrel หนุนจาก EIA รายงานStock น้ำมันดิบ -9.2 ล้านบาร์เรลต่ำตลาดคาด -2.1 ล้านบาร์เรล มองจิตวิทยาบวกต่อหุ้นพลังงานต้นน้ำ PTT, PTTEP
• (*/+)Soft Commodity : Dollar ที่อ่อนค่าหนุนราคา Soft Commodity หลายสินค้าขึ้น อาทิ น้ำตาล +2.99%d-d ปิดที่ 24.46US$/lb จิตวิทยาบวกต่อ KSL, KTIS, KBS ยาง TOCOM +2.35%d-d ปิดที่ 278.9JPY/kg จิตวิทยาบวกต่อ STA, NER
🔸🔸🔸🔸🔸