🌄KCS คาด SET ฟื้นตัว ปัจจัยทางการเมืองระยะสั้นมีทิศทางนิ่งขึ้น หลัง พรรคก้าวไกล ถอดเรื่อง การแก้ ม.112 ออกจากหน้าเวปพรรค และคาดว่าหลังจากนี้จะไม่กล้าแสดงความคิดเห็น ซึ่งจะทำให้การเมืองด้านนี้ลดความร้อนแรงลง ขณะที่ปัจจัยอื่นยังรอลุ้นผลประกอบการณ์ 4Q23 ประเมินแนวต้าน 1383 / แนวรับ 1352 จุด แนะนำ selective Buy ปัจนจัยภายนอก ตลาดหุ้นสหรัฐฯฟื้นทดสอบยอด High หนุนจาก US Bond Yield อายุ 10ปี ลงอีก -12 bps (วานนี้ -13 bps) สะท้อนยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มสู่ 2.24 แสนราย แม้ +5.1%w-w แต่ยังห่างจากระดับเสี่ยง Hard Landing ที่ 4แสนราย ส่วน Asia ภาพแรงขับเคลื่อนจีนเริ่มมีสัญญาณดี เริ่มเห็นกระแสเม็ดเงินสู่ภาคอสังหาฯ ในเดือน ม.ค. ราว 1.5 แสนล้านหยวน แม้เป็นเพียง 0.11% ของ GDP รวม แต่เราประเมินสูงราว 0.5-0.6% ของ GDP ภาคอสังหา (18-20% ของ GDP รวม) ลุ้นเป็นจุดเริ่มต้นการอัดฉีดสภาพคล่อง ส่วนไทยอานิสงส์หลักจากจีนขณะนี้ คือ ภาคท่องเที่ยว รัฐฯคาดนักท่องเที่ยวตรุษจีนจะเร่งสู่วันละ 4.58 หมื่นคน เพิ่ม 3 เท่าจาก avg. MTD ม.ค. วันละ 1.58 หมื่นคน มอง SET ฟื้นต่อ หุ้นนำ คือ กลุ่มได้ประโยชน์ดอกเบี้ยขาลง ท่องเที่ยวอิงฐานลูกค้าจีน อาทิ AOT AAV MINT SPA TKN แนะนำ AOT, AAV, GPSC
🔸🔸🔸🔸🔸
🌏What happened around the world ?
• (*) US Stocks : ตลาดหุ้นสหรัฐฟื้น Dow jones +0.97%, S&P500 +1.25% Nasdaq +1.3% โดยดัชนี S&P500 พลิกกลับมาฟื้นทุก Sector หลักๆ คือ Consumer Discretionary, Consumer Staples, Utilities ฯลฯ มีเพียงกลุ่มเดียวที่ปรับลง คือ Energy หุ้นที่ปรับขึ้นหลักๆคือ Merck&Co + 4.6% บริษัทยารายใหญ่ของสหรัฐ หนุนจากรายงานกำไรและรายได้ดีกว่าคาด หนุนจาก ยอดขายยา Keytruda ซึ่งเป็นยารักษาโรคมะเร็ง รวมทั้งยอดขาย Gardasil ซึ่งเป็นวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก และกลุ่ม Growth อาทิ ORACLE +3.43%, NVDIA +2.44%, COCA-COLA +2.5% ฯลฯ ส่วนหุ้น META +1.2% รานงานงบหลังตลาดปิด หนุนจากรายงานกำไรดีกว่าตลาดคาด 7% จากรายได้ฝั่งโฆษณาโตดี ผสานประกาศจ่ายปันผลครั้งแรก และประกาศซื้อหุ้นคืนวงเงิน 5 หมื่นล้านเหรียญ ฯลฯ
•(*) US Econ : ภาพรวมออกมายังบ่งชี้ความแข็งแกร่ง อาทิ 1.) PMI ภาคผลิต (ISM) เดือน ม.ค. ปรับเพิ่มขึ้นติดต่อกัน 3 เดือนอยู่ที่ 49.1 จุด และดีกว่าตลาดคาด 47.5 จุด สะท้อนภาคการผลิตสหรัฐมีแนวโน้มดีขึ้นและใกล้เข้าสู่โหมดขยายตัว คือ ดัชนี > 50 จุด 2.)ยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกสิ้นสุดสัปดาห์อยู่ที่ระดับ 2.24 แสนราย แย่กว่าตลาดคาดที่ 2.13 แสนราย สะท้อนภาพภาคแรงงานสหรัฐฯประคองในลักษณะ Soft Landing ได้ (ความเสี่ยง Hard Landing จะเกิดขึ้นผู้ขอรับสวัสดิการครั้งแรกเฉลี่ยจะสูงกว่าระดับ 4.0 แสนตำแหน่ง)
•(*/+) US GDP : Fed สาขา Atlanta เผยแบบจำลอง GDP Now สหรัฐงวด 1Q23F + 4.2%q-q (ดีขึ้น VS. ต้นสัปดาห์คาด +3.0%q-q ) เร่งขึ้นจาก 4Q23 ที่ +3.3%q-q
•(*/+) S. Korea Export : ยอดส่งออกเกาหลีใต้ เดือน ม.ค. +18%y-y ดีกว่าตลาดคาด และเป็นการขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 แรงหนุนมาจากยอดส่งหมวด Memory Chip ฯลฯ KCS หนุนภาพวงจรส่งออกสินค้าหมวดอิเล็กทรอนิกศ์ในฝั่งเอเชียปรับขึ้นในทางเดียวกัน มองเป็นจิตวิทยาบวกต่อหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ DELTA, KCE, HAN
•(*/+) EU CPI : ยุโรปรายงานเงินเฟ้อทั่วไป +2.8%y-y VS. กรอบเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางตั้งไว้ราว 2% ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐาน Core CPI +3.3%y-y เป็นการชะลอตัวลงต่อจากที่ดีดขึ้นเมื่อเดือนที่แล้ว หลักมาจากหมวด Goods ที่ลงแรง แต่หมวดอาหาร กลับมาขึ้นแรง +1%m-m และ Energy เริ่มกลับมาฟื้นตัว MUFG คาดว่า ECB จะเริ่มลดดอกเบี้ย 25 bp ครั้งแรกในเดือน เม.ย. ตามด้วยการลดในเดือน มิ.ย. ก.ย. และ ธ.ค. รวม 100 bp ในปี 2024 มองวิทยาบวกต่อหุ้นที่ทำธุรกิจในยุโรป อาทิ MINT, IVL, CRC
• (*) UK : ผลประชุมธนาคารกลางอังกฤษ(BoE) เป็นไปตามคาดคือ คงดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 5.25% แต่คณะกรรมการ MPC กล่าวว่าพร้อมปรับทิศทางการดำเนินนโยบายหากเงินเฟ้อปรับตัวลดลงใกล้เคียง 2% MUFG คาด BOE จะเริ่มลดดอกเบี้ยฯใน 3Q24 ลง 25 bp และอีก 50 bp ใน 4Q24 ทำให้ทั้งปี 2024 ลดดอกเบี้ย 75 bp โดยอัตราดอกเบี้ย ณ. สิ้นปีจะอยู่ที่ 4.25%
• (*) China Econ : ปัจจัยหนุนหุ้นจีนยังมีต่อเนื่อง อาทิ เมื่อวาน 1.) ตัวเลข Caixin PMI ภาคผลิต เดือน ม.ค. อยู่ที่ 50.8 เท่ากับที่ตลาดคาดและเท่ากับงวดก่อน > 50 จุดบ่งชี้ภาคการผลิตธุรกิจขนาดเล็กของจีนขยายตัว และ 2.)PBOC รายงานว่าได้มีการเสริมสภาพคล่อง 1.5 แสนล้านหยวน(ราว 2 หมื่นล้านเหรียญ) 0.11%ของ GDP จีน เพื่อช่วยโครงการอสังหาและโครงสร้างพื้นฐาน (ภาคอสังหาของจีนคิดราว 18-20%ของ GDP จีน)