🌄KCS คาด SET ฟื้นตัว ปัจจัยภายนอกหนุน และคาดหวังนโยบาย คุมโปรแกรมเทรด ของกลต. น่าจะลดแรงกดดันจากแรงขายได้ แนะนำสะสม selective BUY กลุ่ม ท่องเที่ยว AOT, AAV, MINT, ERW, SPA, กลุ่มโรงพยาบาล CHG, BCH, BDMS ปัจจัยภายนอก ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ฟื้นใกล้ระดับ High ของปี จากกำไร บจ. ยังดี ผสาน US Bond Yield 10ปี -8 bps สู่ 4.08% หลังแตะ 4.1-4.25% ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดได้ปรับมุมมองการลดดอกเบี้ยในปี 2024F เหลือ 4.5 ครั้ง(prev. 6 ครั้ง) สอดคล้องถาวะเศรษฐกิจปัจจุบันตามมุมมองของ MUFG แล้ว ขณะที่ความเห็นคณะกรรมการ Fed วานนี้ ส่งสัญญาณ Dovish อ่อนๆ พร้อมลดดอกเบี้ยเมื่อเงินเฟ้อลงสู่เป้าหมาย เป็นบวกต่อบรรยากาศการ “Search for Yield” ใน EM-Asia ภายในความเชื่อมั่นของลงทุนฟื้น นับจากมุมมอง IMF ต่อเศรษฐกิจไทยกลางสัปดาห์ก่อน ผสานกระแสภาคบริการโลกเร่งขยายตัว หนุน Thai ซึ่งเป็นประเทศที่อิงภาคบริการในสัดส่วนสูง(นักท่องเที่ยวต่างชาติ 29 ม.ค. – 4 ก.พ. +6%w-w ต่อเนื่อง 4 สัปดาห์) ล่าสุด Fund Flows ต่างชาติซื้อหุ้น 4วันติด, Long TFEX สูง 30,897 สัญญา สูงสุดตั้งแต่ กลาง ธ.ค. ผสาน ก.ล.ต. ยกระดับกำกับ Program Trading มี.ค. นี้ วันนี้ลุ้นผลประชุม กนง. น่าจะเริ่มส่งสัญญาณ Dovish เล็กๆ หนุน SET แกว่งขึ้นต่อ หุ้นนำ คือ กลุ่มท่องเที่ยว โรงไฟฟ้า และกลุ่มได้อานิสง์ดอกเบี้ยขาลง(Finance + กลุ่มหนี้สูง) แนะนำ CPALL, GPSC, PLANB
🔸🔸🔸🔸🔸
“Rate Cut Cycle Plays”
Daily outlook: “Sideways/Up” ต้าน 1390/1395 จุด รับ1375/1370 จุด
🔸🔸🔸🔸🔸
🌏What happened around the world ?
• (*) US Stocks : ตลาดหุ้นสหรัฐพลิกกลับมาปรับขึ้นเล็กน้อย Dow jones +0.37%, S&P500 +0.23% Nasdaq +0.07% โดยยังเป็นแนวโน้มแกว่งตัวขึ้นทดสอบแนวต้านสำคัญ หากผ่านได้จะทำ All time high อีกครั้ง แรงหนุนหลักๆยังเป็นเรื่องงบ 4Q23 โดยดัชนี S&P500 กลุ่มที่นำตลาด คือ Materials, Realestate, Healthcare ฯลฯ (หุ้นที่นำคือ สายการบิน อาทิ Frontier Group +20% รับงบ 4Q23 กำไรดีกว่าตลาดคาดจะขาดทุน , GE healthcare +11.6% ฯลฯ) Sector ที่ Underperform คือ IT, ICT
•(*/+) China Stocks : เมื่อวานตลาดหุ้นฮ่องกงและจีนปรับขึ้นแรง รับข่าว สี จิ้นผิง เข้าพบ ก.ล.ต. จีน KCS มองเพื่อผลักดันนโยบายสนับสนุนตลาดหุ้นที่ออกมาเช้าวันนี้เป็นรูปธรรมมากขึ้น 1)ควบคุมการ Short Sell หุ้น ให้กองทุนขนาดใหญ่หยุดปล่อยหุ้นให้ยืม Short และ 2) ปรับลดระดับ Margin Call ให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น เพื่อลดการถูกบังคับขาย มองจิตวิทยาบวกต่อหุ้นเชื่อมโยงจีน อาทิ IVL, SCGP ,PTTGC
•(*) Fed Speak : มี 2 ท่าน คือ 1.) Nell Kashkari ประธาน Fed Minneapolis (Non Voter) เผยการควบคุมเงินเฟ้อของ Fed ลงมาในกรอบ 2%+- ยังไม่ถึงเป้า โดยแนะนำให้ติดตามข้อมูล 3-6 เดือนที่ข้างหน้าในส่วนของเงินเฟ้อ 2.) Mester ประธาน Fed สาขา Cleveland (Voter) เศรษฐกิจสหรัฐอยู่ในทิศทางที่คาดการณ์ไว้ เปิดทางให้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ แต่ยังไม่ให้ความเห็นจะปรับลดครั้งแรกในการประชุมรอบใด
•(*/+) War : นาย Antony John Blinken รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ให้สัมภาษณ์สื่อ เผย เชื่อข้อตกลงพักรบอิสราเอล-ฮามาสมีความเป็นไปได้ และอาจจะทำให้คาดการณ์ความตึงเครียดในทะเลแดง (ชาติตะวันตกและกลุ่มฮูตี) คลี่คลายลงเช่นกัน โดยเฉพาะประเทศขนาดใหญ่ที่สนับสนุนทั้ง 2 ฝั่ง คือ ในฝั่งสหรัฐฯ (อิสราเอล, ชาติตะวันตก) และอิหร่าน (กลุ่มฮามาส, กลุ่มฮูตี) KCS ประเมิน ตลาดมีโอกาสปรับเพิ่มมุมมองบวก แนวโน้มค่าระวางเรือ Container Index มีโอกาสปรับลง จากทิศทางแนวโน้ม Geopolitical risks คลี่คลาย ประเมินจิตวิทยาบวกต่อหุ้นที่มีต้นทุนค่าขนส่งอาทิ SCGP (5% ของต้นทุน) TU, GFPT, STA ,NER STGT, KCE, DELTA, HANA, SVI (3-5% ของต้นทุน) เน้น HANA, DELTA, IVL
• (*) To monitors : ฝั่งจีน 8 ก.พ. เงินเฟ้อทั่วไป CPI จีน ม.ค. 24 -0.5%y-y vs prev. -0.3%y-y 9 ก.พ. ติดตามยอดปล่อยกู้ใหม่ของธนาคารพาณิชย์จีน คาดเพิ่มขึ้น 4.68 แสนล้านหยวน vs prev. 1.17 แสนล้านหยวน
• (*) US Bond & Dollar : ระยะสั้นพลิกลงแรง มองเป็นการ Take profit โดย อายุ 10 ปี ปรับลง -8 bps อยู่ที่ 4.09% เช่นเดียวกับ 2 ปี พลิกปรับลง -7 bps อยู่ที่ 4.39% เป็นจิตวิทยาบวกต่อหุ้นการเงิน กลุ่มโรงไฟฟ้า และกลุ่ม Growth ในวันนี้ ส่วน Dollar Index พลิกอ่อนค่ามาบริเวณ 104.1+/- จุด
• (*/+) Oil : ราคาน้ำมันดิบ Brent +0.77%d-d ปิดที่ US$ 78.59/barrel, West Texas +0.16%d-d ปิดที่ US$ 73.43/barrel โดยราคาน้ำมันปรับขึ้นช่วงแรกรับข่าว กระทรวงพลังงานสหรัฐเผย (Short-Term Energy Outlook) คาดการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐในปี 2024 จะ +170,000 บาร์เรล/วัน (ลดลงจากก่อนหน้าคาด 290,000