ปัจจุบันการทำเกษตรด้วยระบบ Smart Farming ได้แพร่หลายมากขึ้นในประเทศไทย เนื่องจากระบบนี้จะมีการประมวลผลตรวจวัดหรือติดตามสภาพต่าง ๆ เพื่อควบคุมระบบควบคุมการใช้ทรัพยากรที่เกี่ยวข้องในการเพาะปลูก เช่น น้ำ ปุ๋ย เวชภัณฑ์ และระบบโรงเรือนอัจฉริยะ ทำให้เกษตรกรได้รับผลผลิตที่มีคุณภาพและนำไปจำหน่ายได้ในราคาที่สูงขึ้น
ผู้ประกอบการเกษตรอัจฉริยะสามารถยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนในกิจการ SMART Farming กับ
บีโอไอได้แล้ว แม้ว่าผู้ขอรับส่งเสริมจะไม่ใช่ผู้พัฒนาระบบเอง แต่ไปว่าจ้างผู้อื่นพัฒนาระบบให้ ก็สามารถยื่น
ขอรับส่งเสริมในกิจการ Smart Farming ได้ โดยจะได้รับสิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นระยะเวลา 5 ปี ทั้งนี้ จะต้องมีค่าใช้จ่ายในการจ้างผู้พัฒนาระบบในประเทศซึ่งเป็นกลุ่ม Startup ในประเทศไทยนี่เอง เป็นผู้พัฒนาระบบเพื่อเป็นการสนับสนุนนักลงทุนกลุ่มนี้ด้วย