ตลอดระยะเวลาของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ผ่านมา บีโอไอในฐานะหน่วยงานของรัฐ ได้ออกมาตรการช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบให้กับผู้ประกอบการมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นกลไกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวในช่วงที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตครั้งนี้ เช่น มาตรการเร่งรัดให้เกิดการลงทุนอย่างรวดเร็วสนองต่อความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ในสถานการณ์ปัจจุบัน และมาตรการผ่อนปรนเงื่อนไขและบรรเทาผลกระทบต่อผู้ประกอบการ รวมถึงมาตรการกระตุ้นให้เกิดการลงทุนโดยเร็ว ซึ่งส่งผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศในหลายอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อุตสาหกรรมการแพทย์ทั้งด้านการผลิตและการบริการที่สามารถขยายตัวได้อย่างก้าวกระโดดในช่วงปีที่ผ่านมา
นอกจากนี้ บีโอไอยังออกประเภทกิจการที่จำเป็นในการสร้างสภาพแวดล้อม หรือ Ecosystem (อ่านว่า อีโคซิสเตม) ที่เอื้อต่อการลงทุนในอุตสาหกรรมการแพทย์อย่างครบวงจร เพื่อสนับสนุนให้ไทยเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ Medical Hub (อ่านว่า เมดดิคอล ฮับ) อย่างแท้จริง โดยบีโอไอได้เปิดประเภทกิจการให้การส่งเสริมการลงทุนในกิจการวิจัยทางคลินิค ซึ่งมี 2 กิจการย่อย ได้แก่ กิจการสนับสนุนและบริหารจัดการวิจัยทางคลินิค และศูนย์การวิจัยทางคลินิกโดยทั้ง 2 กิจการจะได้รับสิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 8 ปี ไม่จำกัดวงเงินยกเว้นภาษี
โดยการส่งเสริมดังกล่าวจะเป็นการยกระดับให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ Medical Hub (อ่านว่า เมดดิคอล ฮับ) ได้อย่างสมบูรณ์ ทั้งในด้านการผลิต การบริการ และการวิจัยพัฒนา อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มโอกาสให้ไทยเป็นผู้นำการพัฒนายาหรือวัคซีนในภูมิภาคเพื่อการป้องกันหรือรักษาโควิค-19 รวมถึงโรคระบาดต่างๆ ที่อาจเกิดในอนาคต ซึ่งจะช่วยส่งผลให้คนไทยได้รับและเข้าถึงการรักษาที่ดีที่สุดได้อย่างง่ายขึ้นอีกด้วย