TICA พัฒนาทั่วโลก ตอน "กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์กับนวัตกรรมตู้คอนเทรนเนอร์ตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา - 2019" เป็นการพูดคุยกับ น.สพ.อธิวัฒน์ ปริมสิริคุณาวุฒิ นักวิทยาศาสตร์การแพทย์จากสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ซึ่งเป็นผู้ออกแบบตู้คอนเทรนเนอร์นี้ฯ ซึ่ง TICA พัฒนาทั่วโลกได้้มีโอกาสไปติดตามคณะกรรมการตรวจรับห้องปฏิบัติการสำเร็จรูปเพื่อมอบให้โรงพยาบาลแขวงบ่อแก้ว ภายใต้แผนงานโครงการความร่วมมือกับ สปป.ลาว เพื่อรับมือโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด – 19
ห้องปฏิบัติการสำเร็จรูป (ห้อง Lab) คือ ตู้คอนเทนเนอร์ ใครเป็นคนออกแบบ ก็ทราบว่าเป็นการออกแบบโดยทีมงานของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข นั่นเอง แล้ว ถือว่า เป็นโอกาสที่ดีมาก ๆ ที่ หนึ่งในทีมงานที่ออกแบบเป็นกรรมการตรวจรับกับเราด้วย คือ น.สพ.อธิวัฒน์ฯ คนนี้เองค่ะ โดย น.สพ.อธิวัฒน์ฯ ออกแบบจากประสบการณ์ในการทำงานของทีมงานของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และตอบโจทย์ของปัญหาของโรงพยาบาลแขวงบ่อแก้ว ที่ทราบจากการหารือทาง online หลายครั้งว่า โรงพยาบาลมีข้อจำกัดในด้านพื้นที่ คือ ไม่มีพื้นที่ที่จะก่อสร้างอาคาร และห้องทุกห้องในโรงพยาบาลถูกใช้งานหมดแล้ว แต่ทุกปัญหาย่อมมีทางออกเสมอ หากเราทราบว่าต้นตอปัญหาคืออะไร มีข้อจำกัดอะไรบ้าง และเป้าหมายของเราคืออะไร
หลาย ๆ ท่านคงทราบแล้วว่า สถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด – 19 มีการระบาดหลายระลอกแล้วหากต้องดำเนินการก่อสร้างอาคารเพื่อทำเป็นห้องปฏิบัติการคงต้องใช้เวลานานกว่าจะดำเนินการได้ ดังนั้น น.สพ.อธิวัฒน์ฯ จึงได้เสนอแนวทางการสนับสนุนห้องปฏิบัติการเป็น ห้อง Lab สำเร็จรูป หรือ ทำจากตู้คอนเทนเนอร์ นั่นเอง ถามว่า ห้อง Lab แบบนี้ที่ประเทศไทยมีใช้ไหม น.สพ.อธิวัฒน์ฯ แจ้งว่า มีการใช้งานที่สนามบินดอนเมือง สำนักป้องกันโรคเขตเมือง (สปคม.) โรงพยาบาลของรัฐและเอกชนบางแห่ง แล้วมาตรฐานละเป็นอย่างไร น.สพ.อธิวัฒน์ฯ แจ้งเราว่า ห้อง Lab แบบนี้เราได้ออกแบบตามแนวทางของ WHO ที่ได้กำหนดไว้ และใช้ประสบการณ์ของทีมงานในการปฏิบัติงานในห้อง Lab จริงมาประยุกต์หรือปรับใช้ ซึ่งในต่างประเทศก็มีการใช้งานกันอยู่แล้ว ดังนั้น ต้องบอกว่า ตู้คอนเทนเนอร์นี้ ออกแบบตามแนวทางการปฏิบัติที่ดีทางห้องปฏิบัติการตามคำแนะนำของ WHO
ห้อง Lab สำเร็จรูปนี้ ใช้เวลาในการประกอบร่าง จำนวน 25 วัน น้ำหนักโดยรวม 2,000 กิโลกรัม หรือ 2 ตัน มีการแบ่งการใช้พื้นที่เป็น 3 ส่วน คือ ห้องเตรียมน้ำยา (Master Mix Room) ห้องสกัดตัวอย่าง (Extraction Room) และห้องอณูชีววิทยา (PCR Room) นอกจากนี้ ยังมีห้องวางเครื่องนึ่งฆ่าเชื้อด้วยไอน้ำอีกด้วย สำหรับอุปกรณ์การแพทย์อื่น ๆ เครื่องมือวิทยาศาสตร์ต่าง ๆ เรายังไม่ได้จัดวางให้ เนื่องจากตู้คอนเทนเนอร์นี้ต้องถูกส่งไปยังแขวงบ่อแก้วเพื่อทำพิธีมอบรับและเนื่องจากอุปกรณ์การแพทย์มีความละเอียดอ่อนหากกระทบกระเทือนจากการเดินทางอาจจะทำให้อุปกรณ์มีความคลาดเคลื่อน อาจกระทบกับความเที่ยงตรงของเครื่องมือได้ TICA จึงได้ส่งตู้คอนเทนเนอร์ไปก่อน แล้วอุปกรณ์จะส่งไปภายหลัง
นอกจากนี้ ทำให้ได้เห็นว่า การออกแบบห้อง Lab นี้ ได้คำนึงถึงข้อจำกัดของผู้ใช้งานคือ โรงพยาบาลแขวงบ่อแก้วอย่างมาก เช่น ปลั้กไฟ ทำออกมาเป็น 3 สาย เพื่อแก้ปัญหากระแสไฟฟ้าตก หรือไม่เพียงพอ สามารถเปิดใช้ที่ละห้องเพื่อให้การใช้งานเกิดประโยชน์สูงสุดจริง
้ ขอปิดท้ายด้วยคำพูดของ น.สพ.อธิวัฒน์ฯ ที่ได้บอกกับเราว่า หากพิจารณาถึงลักษณะการทำงานด้านการแพทย์และสาธารณสุข ต้องยอมรับว่า เราไม่สามารถอยู่ได้ด้วยตัวคนเดียว แม้ว่า ประเทศไทยเราจะมีความเข้มแข็งในหลาย ๆ ด้าน แต่ด้านการแพทย์และสาธารณสุขนั้น เราต้องอาศัยการตรวจสอบและความร่วมมือจากประเทศเพื่อนบ้านของเรา เรามีเพื่อนบ้านอยู่รอบประเทศไทย ดังนั้น เราก็ต้องมีความร่วมมือระหว่างกัน ซึ่งเป็นไปตามแนวปฏิบัติของกฏอนามัยระหว่างประเทศ (International Health Regulation,IHR) หรือจะสรุปแบบสั้น ๆ คือ เพื่อนบ้านปลอดภัย ไทยก็ปลอดภัย