ตอนที่ 2 เป็นการพูดคุยกับ ผศ.ดร.นักสิทธิ์ ปัญโญใหญ่ เกี่ยวกับการดำเนินกิจกรรมของโครงการความร่วมมือเพื่อการพัฒนาชุมชนต้นแบบอย่างยั่งยืนบนพื้นฐานการประยุกต์ใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสำหรับชุมชน OGOP ของราชอาณาจักรภูฏาน หรือ Sustainable Community Development Model Based on the Application of Sufficiency Economy Philosophy for the One Gewog[1] One Product (OGOP) Villages in Bhutan (OGOP Model II)
การดำเนินกิจกรรมตามแผนงานโครงการในช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19
การฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ OGOP ภายใต้โครงการ OGOP Model II ประจำปี 2563 กรมความร่วมมือระหว่างประเทศร่วมกับ The Queen’s Project Office (QPO) หน่วยงานคู่ร่วมมือฝ่ายภูฏาน ได้จัดกิจกรรมการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ OGOP ภายใต้โครงการ OGOP Model II ประจำปี 2563 สำหรับพื้นที่เป้าหมายโครงการในภูฏาน โดยมีคณะผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงใหม่ (มรภ.ชม.) เป็นผู้ดำเนินการสอนด้านเทคนิครวมถึงการออกแบบผลิตภัณฑ์ด้วย
กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นตามแผนงานโครงการเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ OGOP ใน 6 ชุมชนเป้าหมายของโครงการที่จังหวัด Haa , Tsirang, Wangdue Phodrang, Lhuntse, Trashi Yangtse และ Trongsa ตามศักยภาพของชุมชนนั้น ๆ โดยแต่ละชุมชนจะได้รับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชนละ ๒ ผลิตภัณฑ์ รวม ๑๒ ผลิตภัณฑ์ต่อปี ตลอดระยะเวลาการดำเนินโครงการ 3 ปี (2562 - 2565)
โดยที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ได้ส่งผลกระทบให้กำหนดการและรูปแบบการจัดกิจกรรมการฝึกอบรมฯ ที่กำหนดไว้ไม่สามารถดำเนินการได้อย่างเต็มรูปแบบ กิจกรรมในช่วงระหว่างเดือนพฤศจิกายน – ธันวาคม 2563 จึงได้ถูกปรับให้ดำเนินการใน 2 รูปแบบ ได้แก่ (1) ระบบทางไกล ฝึกอบรมโดยคณะผู้เชี่ยวชาญจาก มรภ. ชม. สำหรับวิทยากรต้นแบบภูฏาน 5 คน (Training of Trainers - TOT) ได้แก่ เจ้าหน้าที่ QPO เจ้าหน้าที่ National Post-Harvest Center of Bhutan เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นที่เกี่ยวข้อง และผู้นำชุมชนหรือ SMART leaders หรือเกษตร (2) ในพื้นที่เป้าหมายโครงการทั้ง 6 ชุมชน ซึ่งวิทยากรต้นแบบจะอบรมขยายผลให้กับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นที่เกี่ยวข้อง/เกษตรกร/ชาวบ้านในชุมชนรวม 30 คนต่อชุมชน
กิจกรรมการพัฒนาผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมการขับเคลื่อนชุมชนเข้มแข็งเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนตามเป้าหมายโครงการ ซึ่งให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วม (participation) และการเป็นเจ้าของ (ownership) ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในชุมชน จึงได้กำหนดให้ชุมชนดำเนินการคัดเลือกผลิตภัณฑ์ที่ต้องการพัฒนา “ร่วมกัน” ผ่านกลไกการประชุมชุมชนเพื่อพิจารณาความเป็นไปได้และความเหมาะสมระหว่างอุปสงค์ เช่น กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ระดับคุณภาพที่ตลาดต้องการ และอุปทาน เช่น วัตถุดิบที่มีในท้องถิ่น เครื่องมือและอุปกรณ์ ระดับศักยภาพในการผลิต ของผลิตภัณฑ์ที่ชุมชนนั้น ๆ ต้องการพัฒนา